การเลือกใช้อุปกรณ์คออมพิวเตอร์ตามลักษณะงาน

การเลือกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน

        เครื่อง คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันได้พัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถประมวลผลได้เร็วขึ้น แต่ราคาถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้งานทำได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามร้านค้าทั่วไป แต่ผู้ใช้งานควรพิจารณาว่าจะนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อทำงานด้านใด เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์มีทั้งแบบที่ใช้ได้กับงานทุกประเภทหรืองานเฉพาะ ด้าน แม้ว่าราคาเครื่องอุปกรณ์ต่างๆจะถูกลง แต่ผู้ใช้ควรเลือกคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้คุ้มค่ากับ จำนวนเงิน ตัวอย่างของการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ตามลักษณะของงานแต่ละประเภท เช่น
 

    งานเอกสาร หรืองานในสำนักงาน เป็นการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับจัดการด้านเอกสารรายงาน ตกแต่งภาพ ทำการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ ดูภาพยนตร์หรือสื่อทางการศึกษา ติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เช่น ซอฟแวร์ประมวลคำ และซอฟแวร์ตารางทำงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ซีพียูที่มีความเร็ว สูง คือประมาณ 1 GHz ขึ้นไป แต่ควรมีแรมอย่างน้อย 1 GB และอาจเลือกใช้จอภาพแบบแอลซีดีขนาดใหญ่ 17 – 19 นิ้ว เพื่อถนอมสายตา เนื่องจากลักษณะงานต้องจ้องมองจอภาพตลอดเวลา

    งานกราฟิก เป็นใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการตกแต่งและออกแบบภาพ และมีการเรียกใช้งานโปรแกรมหราฟิกหลายๆ โปรแกรมในเวลาเดียวกัน ใช้ซอฟแวร์กราฟิกในการสร้างชิ้นงาน เช่น งานสิ่งพิมพ์ งานนำเสนอแบบมัลติมีเดีย สร้างเว็บไซต์ ติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีการรับ-ส่งข้อมูลจำนวนมากที่มีทั้งภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานประเภทนี้จำเป็นต้องมีซีพียูที่มีความเร็ว อยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง ประมาณ 2 GHz ขึ้นไปใช้แรมอย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป และมีฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุสูงเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก 
    งานออกแบบที่ต้องแสดงผลเป็น 3 มิติ เป็นการออกแบบภาพ 3 มิติ สร้างภาพยนตร์ สร้างการ์ตูน แอนิเมชัน (animation) ตัดต่อวีดีทัศน์ ตัดต่อเพลง เล่นเกมที่มีกราฟิกสูง งานประเภทนี้ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการคำนวณและแสดงภาพ ความละเอียดสูงสุดได้ ดังนั้น ควรเลือกซีพียูที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 2 GHz มีแรมอย่างน้อย 4 GB การ์ดแสดงผลที่สามารถแสดงภาพที่มีความละเอียดสูงได้ดีควรใช้จอภาพขนาดไม่ต่ำ กว่า 24 นิ้ว และควรมีเครื่องสำรองไฟเนื่องจากการทำงานประเภทนี้คอมพิวเตอร์ต้องใช้เวลาใน การประมวลผลนานถ้าหากไฟดับหรือไฟกระตุกจะไม่สะดวกใน
 การเริ่มทำงานใหม่- งานเอกสาร หรืองานในสำนักงาน เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับการจัดการด้านเอกสาร รายงาน ตกแต่งภาพ ทำการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ซีพียูที่มีความ เร็วสูง คือประมาณ 1 GHz ขึ้นไปแต่ควรมีแรมอย่างน้อย 1 GB และอาจเลือกจอภาพแบบแอลซีดีขนาด 17-19 นิ้ว
- งานกราฟฟิก เป็นการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการตกแต่งและ ออกแบบภาพ เช่น งานสิ่งพิมพ์ สร้างเว็บไซต์ ฯลฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานประเภทนี้จำเป็นต้องมีซีพียูที่มีความเร็ว อยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง ประมาณ 2 GHz ขึ้นไป ใช้แรมอย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป และมีฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุสูงเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก



การเลือกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน
- งานออกแบบที่ต้องแสดงผลเป็น 3 มิติ เป็นการใช้ คอมพิวเตอร์ในการออกแบบภาพ 3 มิติ สร้างภาพยนตร์ แอนิเมชั่น ฯลฯ งานประเภทนี้ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการคำนวณ และแสดงภาพความละเอียดสูงสุดได้ ควรเลือกซีพียูที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 2 GHz มีแรมอย่างน้อย 4 GB การ์ดแสดงผลที่สามารถแสดงภาพความละเอียดสูงสุดได้ดี ควรใช้จอภาพขนาดไม่ต่ำกว่า 24 นิ้ว และควรมีเครื่องสำรองไฟฟ้า
    1 ปัจจัยในการเลือกซื้อซีพียู
1. บริษัทผู้ผลิต มี 2 บริษัทชั้นนำ คือ บริษัทอินเทล และ บริษัทเอเอ็มดี
2. ความเร็วของซีพียู ความเร็วของซีพียูขึ้นอยู่กับความถี่สัญญาณนาฬิกา
3. หน่วยความจำแคช เป็นหน่วยความจำความเร็วสูงเพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น ควรพิจารณาเลือกซื้อซีพียูที่ความจุของหน่วยความจำแคชมาก
4. ความเร็วบัส คือ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างซีพียูและอุปกรณ์อื่นๆ ควรเลือกซีพียูที่มีความเร็วบัสสูง และสอดคล้องกับความเร็วของอุปกรณ์อื่น
    2 เมนบอร์ด ต้องคำนึงถึงในการซื้อเมนบอร์ด เช่น ซ็อกเก็ตซีพียู ฟรอนต์ไซด์บัส สล็อตหน่วยความจำ ช่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ หรือ สล็อต พอร์ต ขั้วต่อและรูปแบบหรือฟอร์มแฟกเตอร์
    3 ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อแรม
1. ประเภทของแรม ต้องพิจารณาเลือกซื้อให้ตรงกับสล็อตหน่วยความจำบนเมนบอร์ด
2. ความจุ มีตั้งแต่ 256 MB ขึ้นไป เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านกราฟฟิกจะใช้แรมที่มีความจุสูง สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมักจะติดตั้งแรม 1 GB ขึ้นไป
3. ความเร็วของแรม เลือกใช้ความเร็วให้สอดคล้องกับความเร็วบัสและเมนบอร์ด
    4 ปัจจัยในการเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์
1. การเชื่อมต่อ ใช้มาตรฐาน EIDE และ SATA
2. ความจุข้อมูล ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้
3. ความเร็วรอบ โดยทั่วไปฮาร์ดดิสก์ของซีพีจะมีความเร็วรอบอยู่ที่ 7,200 รอบต่อนาที
    5 ปัจจัยในการเลือกซื้อการ์ดแสดงผล
1. ชิปประมวลผลกราฟิก หรือจีพียู เป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มความเร็วในการแสดงผลถ้าประมวลผลสามมิติ อาจใช้ชิปของบริษัท nVIDIA รุ่น GeForce 9 และ  GTX2xx
2. การเชื่อมต่อ มี 2 แบบ คือ แบบใช้กับบัส PCI Express และ บัส AGP
3. ความจุของหน่วยความจำบนการ์ด ถ้ามีความจำมากของหน่วยความจำมาก
จะแสดงภาพมัลติมีเดียความละเอียดสูงได้ดี
การพิจารณาเลือกซื้อออปติคัลดิสก์ไดรฟ์
1.     ซีดีไดร์ฟ ใช้อ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีได้อย่างเดียว
2.     ดีวีดีไดร์ฟ ใช้อ่านทั้งแผ่นซีดี และดีวีดี แต่ไม่สามารถเขียนหรือบันทึกข้อมูลลงได้
3.     ซีดีอาร์ดับบลิวไดร์ฟ สามารถอ่านและเขียนข้อมูลลงแผ่นซีดีได้
4.     คอมโบไดร์ฟ สามารถอ่านและเขียนข้อมูลลงแผ่นซีดีและอ่านข้อมูลจากแผ่นดีวีดีได้
5.     ดีวีดีอาร์ดับบลิวไดร์ฟ สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้ทั้งแผ่นซีดี และดีวีดี มีการระบุค่าความเร็ว
     6 เคส โดยทั่วไปเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ทำหน้าที่เป็นโครงยึดให้กับอุปกรณ์ภายในต่างๆ ที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งเมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ แหล่งจ่ายไฟ เป็นต้น
หลักในการพิจารณาเลือกซื้อเคส


-  มีช่องระบายความร้อน
-  มีพื้นที่ที่จะเพิ่มอุปกรณ์ได้
-  ลักษณะของเคส เช่น เคสในแนวนอน
-  ในกรณีที่เป็นการใช้งานทั่วไป อาจเลือกใช้เคสที่มีแหล่งจ่ายไฟ ติดตั้งมาให้สำเร็จแล้ว

      7 จอภาพ ที่พบอยู่มี 2 ประเภท คือ จอซีอาร์ที และ แอลซีดี
ปัจจัยในการเลือกซื้อจอภาพ เช่น
- ความละเอียดของภาพ ถ้ามีความละเอียดสูงจะทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น
- ขนาด ขนาดของจอภาพจะวัดเป็นแนวทแยงมุม

  อ้างอิง :   Wimonwan Numuean

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น